|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวธุรกิจบริการ : |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เกร็ดน่ารู้ - สาระงานบริการ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวสารโรงแรมและรีสอร์ท🎉🎉 |
|
|
|
|
|
|
|
|
ประกาศแต่งตั้งบุคคล |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวฝึกอบรมงานธุรกิจบริการ |
|
|
|
|
|
|
|
|
รางวัลธุรกิจบริการ |
|
|
|
|
|
|
|
|
โรงแรม รีสอร์ท เปิดใหม่ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวงานโรงแรม ขอนแก่น ⚡⚡ |
|
|
|
|
|
|
|
|
โรงแรมรับสมัคร พนักงานรายวัน - Casual |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คิดแบบ ดีล เมกเกอร์ ระดับโลก (ตอน 2) [00/00/543] 2072 ครั้งที่อ่าน |
|
คิดแบบ ดีล เมกเกอร์ ระดับโลก (ตอน 2) |
|
การคิดแบบ \"ดีล เมคเกอร์ ระดับโลกประกอบด้วยแนวคิดหลัก ๆ 6 ข้อ ได้แก่ 1) คิดใหญ่ 2) คิดรอบด้าน 3) คิดจากจุดแข็ง 4) คิดหาทางเลือก 5) คิดเผื่อทางออก และ 6) คิดสนุก ในตอนที่แล้ว ผมได้พูดถึงการคิดรอบด้าน ซึ่งเป็นแนวคิดข้อที่ 2 ของการคิดแบบดีล เมคเกอร์ ระดับโลกไปแล้ว และในตอนนี้ผมจะพูดถึงแนวคิดข้อที่ 3 ซึ่งได้แก่ คิดจากจุดแข็ง ครับ
3. คิดจากจุดแข็ง
ดีล เมคเกอร์ ที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายต่างค้นหาว่าตัวเองมีจุดแข็งอะไร และใช้มันเป็นอาวุธในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงดีลต่าง ๆ ทางธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จในการสร้างอาณาจักรธุรกิจของพวกเขาเหล่านั้น นอกจากนี้ ก่อนที่เราจะประเมินว่าคู่แข่งของคุณเป็นอย่างไร มีจุดเด่นและจุดด้อยอะไรบ้าง เราจำเป็นที่จะต้องรู้จักจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเราเองให้ดีที่สุด หากเรารู้จักตัวเอง และสามารถประเมินคู่แข่งได้อย่างถูกต้องแล้ว ชัยชนะทางธุรกิจก็จะอยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น ดังตำราพิชัยสงครามของซุนวู ที่กล่าวไว้ว่า \"รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง\" ซึ่งก็ยังใช้เปรียบเทียบได้ดีในปัจจุบัน ในตอนนี้ผมจึงพูดถึงการคิดจากจุดแข็ง ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ 3.1 การค้นหาจุดแข็ง และปิดจุดอ่อนของตัวเอง และ 3.2 การใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์
3.1 การค้นหาจุดแข็ง และปิดจุดอ่อนของตัวเอง: โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า \"สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการทำดีล คือการที่คุณแสดงท่าทีว่าอยากจะได้มันมากเหลือเกิน เพราะมันจะเป็นจุดอ่อนทำให้คนอื่นได้กลิ่นไอเลือด และคุณจะต้องตายในที่สุด\" และทรัมป์ได้แนะนำว่า \"สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ก็คือการดีลจากจุดแข็งของคุณนั่นเอง และการสร้างข้อได้เปรียบ (Leverage) จากจุดแข็งที่มีให้ได้\" ในความหมายของทรัมป์ การสร้างข้อได้เปรียบ หมายถึงการที่เรามีสิ่งที่คนอื่นต้องการมาก หรือถ้าหากคนอื่นไม่มีสิ่งนี้แล้ว เขาจะไม่สามารถทำงานต่อไปได้
สำหรับทรัมป์แล้ว การสร้างข้อได้เปรียบนี้ ต้องอาศัยจินตนาการ และความเป็นนักขายของเขาด้วย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือคุณต้องทำให้คนเชื่อว่าคุณมีสิ่งที่เขาต้องการ ตัวอย่างในการใช้จุดแข็งของทรัมป์ ย้อนกลับไปในปี 1974 ซึ่งทรัมป์ได้ใช้ความพยายามที่จะให้เทศบาลอนุมัติดีลของเขาในการซื้อโรงแรมคอมมอดอร์ บนถนนที่ 42 ตะวันออก โดยทรัมป์ได้โน้มน้าวให้เจ้าของโรงแรมประกาศข่าวว่าพวกเขาจะปิดโรงแรมแห่งนี้ลง ซึ่งเมื่อพวกเขาได้ประกาศออกไป ทรัมป์ก็ใช้จุดแข็งและความสามารถพิเศษของเขาในการประชาสัมพันธ์ ทรัมป์ประกาศออกไปให้ทุกคนในเมืองเห็นว่าการที่ไม่มีโรงแรมแห่งนี้จะทำให้บริเวณ Grand Central รวมทั้งเมืองทั้งเมือง เสียหายเพียงใด ซึ่งในที่สุดก็ทำให้ทรัมป์ได้ดีลนี้มาสำเร็จ
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือเมื่อคณะกรรมการบริษัทของกลุ่มฮอลิเดย์ อินน์ กำลังพิจารณาว่าจะเข้าร่วมทุนกับทรัมป์หรือไม่ในโครงการของเขาที่แอตแลนติก ซิตี้ กลุ่มฮอลิเดย์ อินน์ สนใจไซต์งานก่อสร้างของทรัมป์เพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าการก่อสร้างโครงการของทรัมป์มีความคืบหน้าไปไกลกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ แต่ในความเป็นจริง ทรัมป์ได้อธิบายว่า \"โครงการของผมก็ยังไม่ได้ไปไกลเกินกว่าคู่แข่งหรอก เพียงแต่ผมทำทุกสิ่งที่ผมสามารถทำได้ โดยเฉพาะการเข้าไปทำงานที่โครงการด้วยตัวเอง เพื่อที่จะทำให้พวกเขา (ฮอลิเดย์ อินน์) เชื่อว่าคาสิโนของผมเสร็จสมบูรณ์แล้วจริง ๆ\" ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ทรัมป์ได้ใช้จุดแข็งในการประชาสัมพันธ์ และสร้างความประทับใจให้กับทุกคน จนดีลประสบความสำเร็จ เป็นต้น
3.2 การใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์: ดีล เมคเกอร์ ที่ประสบความสำเร็จต้องรู้จักการใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์ และกลยุทธ์ที่ CEO ส่วนมากใช้ในการสร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กรคือการควบรวมและซื้อกิจการ (Merger & Acquisition) ดังจะเห็นได้จากดีลการควบรวมหรือซื้อกิจการจำนวนมากในปัจจุบัน ซึ่งบุคคลที่ผมอยากจะยกตัวอย่างการใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์ก็คือ แซม เซลล์ (Sam Zell) นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น \"บิดาแห่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่\" โดยแซม เซลล์ ได้ใช้ Connection ซึ่งเป็นจุดแข็งของเขาในการซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการระดมทุนของเขาอีกด้วย ซึ่งแซม เซลล์ ได้สร้างเครื่องมือทางการเงินขึ้นมาสำหรับคนที่เชื่อมั่นในตัวเขาคือกองทุนแห่งโอกาส (Opportunity Fund) โดยกองทุนแรกของเขาสามารถระดมทุนได้มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้แซม เซลล์ มีเงินทุนพร้อมที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ได้ ดังเช่นช่วงต้นทศวรรษ 1990 บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งประสบปัญหาทางการเงิน และถูกสถานการณ์บีบบังคับให้จำเป็นต้องนำสินทรัพย์ของตัวเองออกมาขายในตลาด ทำให้แซม เซลล์ ซึ่งมีแหล่งเงินทุนเตรียมพร้อมอยู่แล้วเข้ากว้านซื้อสินทรัพย์เหล่านั้นในราคาถูกได้
จากจุดแข็งนี้ของแซม เซลล์ ทำให้เขาระดมทุนได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาสามารถเป็นเจ้าของพอร์ตของอาคารสำนักงาน และอพาร์ทเมนท์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และทำให้เขาสามารถทำในสิ่งที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์คนอื่น ๆ ใฝ่ฝัน ก็คือการที่เขาสามารถซื้อสินทรัพย์ในราคาถูกจากบรรดาผู้ขายที่ประสบปัญหาทางการเงินได้
นอกจากนี้ ผมได้ศึกษาผลการวิจัยของบริษัท Bain & Company ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการชั้นนำระดับโลก ตั้งอยู่ที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้วิเคราะห์บริษัทกว่า 1,700 บริษัทในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น พร้อมทั้งสัมภาษณ์ซีอีโอ 250 คนในเชิงลึก รวมระยะเวลากว่า 15 ปี เกี่ยวกับปัจจัยแห่งความสำเร็จในการควบรวมหรือซื้อกิจการ ซึ่งผลการวิจัยสรุปว่าดีลการควบรวมและซื้อกิจการจะประสบความสำเร็จขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ เมื่อดีลนั้นสามารถเพิ่มขีดความสามารถหลักของบริษัทได้ หรือเมื่อดีลนั้นสามารถช่วยให้บริษัทสามารถเป็นผู้นำของตลาดเมื่อขีดความสามารถของบริษัทได้เปลี่ยนไป ซึ่งอีกนัยหนึ่งคือจุดประสงค์ของการควบรวมหรือซื้อกิจการไม่ได้อยู่ที่การเน้นการเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างเดียว แต่สิ่งที่บริษัทต้องคำนึงคือการควบรวมนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของจุดแข็งของบริษัท และส่งเสริมให้บริษัทมีขีดความสามารถหลักเพิ่มขึ้น
ดีลส่วนมากนั้นประสบความล้มเหลว แต่ดีลที่ประสบความสำเร็จได้นั้น เนื่องจากได้เริ่มต้นจากจุดแข็งของตัวเอง เช่น ดีลในอุตสาหกรรมอาหารซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่นิยมการซื้อกิจการกันมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Kraft ซื้อกิจการของบริษัท Nabisco หรือบริษัท Sara Lee ซื้อกิจการของบริษัท Earthgrains เป็นต้น เพราะการออกสินค้าใหม่เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตของบริษัท แต่ต้นทุนของการวิจัย และพัฒนาสูตรใหม่ สูงกว่าการซื้อกิจการของบริษัทอื่นที่มีสูตรอยู่แล้ว และในที่นี้ผมขอยกตัวอย่างดีลของบริษัท Kelloggs และบริษัท Keebler โดย Kelloggs ซึ่งเป็นผู้นำตลาดด้านอาหารเช้าของสหรัฐอเมริกามานาน มีกำไรขั้นต้นสูงถึง 17.5% ต่อมาประมาณกลางทศวรรษ 1990 คู่แข่งของ Kelloggs ได้ประกาศสงครามราคาโดยการลดราคาสินค้าอย่างมาก ส่งผลยอดขายและผลประกอบการของ Kelloggs ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2000 ปรับตัวลดลง อีกทั้งราคาหุ้นของ Kelloggs ก็ปรับตัวลดลงถึง 20% ในขณะที่ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น
ในปี 1999 คาร์ลอส กูเทียเรส (Carlos Gutierrez) ซีอีโอของ Kelloggs ได้เล็งเห็นถึงการใช้แนวคิดในการใช้จุดแข็งของตัวเองให้เป็นประโยชน์ โดยคาร์ลอสรู้ว่า Kelloggs มีจุดแข็งอยู่ที่ความแข็งแกร่งของแบรนด์ (Brand Strength) ในเรื่องของอาหารประเภทซีเรียล บริษัทจึงควรพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ออกมา เช่น Breakfast Bar และ Nutri-Grain เป็นต้น ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี นอกจากนี้ คาร์ลอสได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ให้มุ่งเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานตามแผนอย่างรวดเร็ว โดยผ่านการฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างดี และประการสุดท้ายคาร์ลอสคิดว่าต้องขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพราะเขาตระหนักดีว่าวิธีที่ดีที่สุดในการจัดส่งขนมทานเล่น (snack) คือการใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายโดยตรง (Direct Distribution Channel) ซึ่งเขายอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากและมีต้นทุนสูงมากหากเขาต้องพัฒนาวิธีนี้โดยเริ่มจากศูนย์ ดังนั้นคาร์ลอสจึงคิดว่าบริษัทของเขาควรซื้อกิจการของบริษัทอื่นที่มีจุดแข็งเรื่องการกระจายสินค้า และในที่สุด Kelloggs ได้เข้าซื้อกิจการของ Keebler ซึ่งเป็นบริษัทที่มีระบบที่ดีเยี่ยมในการจัดส่งสินค้าโดยตรงให้แก่ร้านค้า ซึ่งดีลนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะช่วยให้ Kelloggs สามารถเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มประเภทของขนมทานเล่นตามช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของ Kelloggs ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 43% ระหว่างปี 1999 และ 2003 ซึ่งประเด็นสำคัญของความสำเร็จของดีลนี้เกิดจากการที่ Kelloggs สามารถใช้จุดแข็งของตัวเองออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย นั่นเอง
โดยสรุป ผลการวิเคราะห์จากดีลที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 1986 ถึง 2001 พบว่าการทำดีลให้ประสบความสำเร็จ จะต้องเริ่มจากจุดแข็งของแต่ละฝ่าย และใช้จุดแข็งของตัวเองมาส่งเสริมซึ่งกันและกัน ตอนหน้าผมจะพูดถึงแนวคิดข้อที่ 4 ของการคิดแบบดีล เมคเกอร์ ระดับโลกคือการคิดหาทางเลือก ครับ
| |
|
|
|
|
|
|
ลงประกาศข่าวฟรี |
|
สามารถส่งข่าว และโพสประกาศงานฟรี ได้โดย คลิกทีนี่ เพื่อฝากประชาสัมพันธ์ข่าวโรงแรม และข่าวอื่นๆ ฟรี (รวมโพสงานแบบโพสเตอร์) |
|
|
|
|
|
|
|
|
Statistics Visitor |
|
2534Online |
160Today |
140Yesterday |
3,672Month |
4,852Last month |
3,485,440Visitor |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สถิติสมาชิก |
|
ประวัติผู้สมัคร81,142 |
บริษัทสมาชิกพิเศษ1,664 |
บริษัทสมาชิกทั่วไป5,814 |
ตำแหน่งงาน11,387 |
|
|
|
|
|
|
|
|
Appointment News |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวสารธุรกิจบริการ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวอื่นๆ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวสารท่องเที่ยวและทัวร์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวร้านอาหารและอาหารแนะนำ |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวสารธุรกิจสปา |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวสารธุรกิจการบิน |
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวแด่นวันนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
โรงแรมรีสอร์ททั่วโลก |
|
|
|
|
|
|
|
|
ซื้อขายโรงแรม และ ขายที่ดิน- |
|
|
|
|
|
|
|
|
วิดีทัศน์อบรมงานบริการ |
|
|
|
|
|
|
|
|
โรงแรมพิเศษและแปลก |
|
|
|
|
|
|
|
|
โปรโมชั่นพิเศษ!! |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|